“จรรยาบรรณ” หมายถึง ประมวลความประพฤติที่ผู้ประกอบอาชีพการงานแต่ละอย่างกำหนดขึ้น เพื่อรักษาและส่งเสริมเกียรติคุณชื่อเสียงและฐานะของสมาชิก อาจเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่ก็ได้ ดังนั้น ในแต่ละวิชาชีพจึงได้กำหนดจรรยาบรรณมากำหนดบทบาทหน้าที่ และพฤติกรรมของสมาชิกในวงการวิชาชีพซึ่งพิจารณาโดยยึดหลักการจรรยาบรรณสำคัญไม่น้อยกว่ากฎหมาย จรรยาบรรณจึงเป็นกรอบปฏิบัติที่สำคัญเพื่อให้สถาปนิกยึดถือเพื่อให้การทำงานเป็นไปตามมาตรฐานวิชาการและวิชาชีพ และเป็นไปตามหลักแห่งคุณธรรมและจริยธรรม อันจะเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้าหรือประชาชนผู้ให้บริการเป็นสำคัญ เมื่องานสถาปัตยกรรมเป็นงานวิชาชีพที่ผู้สร้างสรรค์ผลงานต้องใช้ความรู้ความชำนาญและความสามารถในการสร้างผลงาน เพื่อให้ผู้ว่าจ้างได้รับผลงานที่ดีที่สุด และต้องคำนึงถึงคุณภาพของงานเป็นอันดับแรก จรรยาบรรณแห่งวิชาชีพสถาปัตยกรรมจึงเป็นเครื่องมืออันสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมมีหลักการและแนวทางปฏิบัติตามที่ถูกต้องเหมาะสมอันจะนำมาซึ่งประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการปฏิบัติงาน รวมทั้งความเลื่อมใสศรัทธาและความเชื่อมั่นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง
ปัจจุบัน จรรยาบรรณแห่งวิชาชีพสถาปัตยกรรมเป็นไปตาม
ตามพระราชบัญญัติสถาปนิก พ.ศ. 2543 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถาปนิก (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 กำหนดให้
ต้องประพฤติตนตามจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพสถาปัตยกรรมตามที่กำหนดในข้อบังคับสภาสถาปนิก
คณะกรรมการจรรยาบรรณประกอบด้วย ประธานกรรมการจรรยาบรรณคนหนึ่ง และกรรมการจรรยาบรรณตามจำนวนที่คณะกรรมการสภาสถาปนิกกำหนด แต่ไม่น้อยกว่าสามคน โดยคณะกรรมการสภาสถาปนิกแต่งตั้งกรรมการจรรยาบรรณตามมติของที่ประชุมใหญ่สภาสถาปนิกจากสมาชิกซึ่งมีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้
(1) เป็นผู้ประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุมมาแล้วไม่น้อยกว่าสิบปี
(2) ไม่เคยถูกลงโทษฐานประพฤติผิดจรรยาบรรณ
(3) ไม่เป็นกรรมการ
ตามมาตรา 54 แห่งพระราชบัญญัติสถาปนิก พ.ศ. 2543 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถาปนิก (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 กำหนดให้กรรมการจรรยาบรรณให้มีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละสามปี
มาตรา 61 แห่งพระราชบัญญัติสถาปนิก พ.ศ. 2543 กำหนดโทษผู้ประพฤติผิดจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพสถาปัตยกรรมไว้ 4 สถาน ดังต่อไปนี้
(1) ตักเตือน
(2) ภาคทัณฑ์
(3) พักใช้ใบอนุญาตมีกำหนดเวลาตามที่เห็นสมควร แต่ไม่เกินห้าปี
(4) เพิกถอนใบอนุญาต
กระบวนการพิจารณาจรรยาบรรณ Download